ที่เที่ยวที่น่าสนใจในกรุงมอสโก สหพันธรัฐรัสเซีย

Release Date : 18-05-2017 00:00:00
ที่เที่ยวที่น่าสนใจในกรุงมอสโก สหพันธรัฐรัสเซีย

1. จัตุรัสแดง

ที่แรกในมอสโคต้องมาที่นี่เลย จัตุรัสแดง หรือ Red Square ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวมีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งของเมือง อีกทั้งยังเป็นจุดที่มีนักท่องเที่ยวมาเยือนมากที่สุดด้วยโดยเป้าหมายของคนส่วนใหญ่ที่มาเยือนที่นี่ก็คือ การมาชมความงามของสถาปัตยกรรมรัสเซีย ไม่ว่าจะเป็นพระราชวัง หรือจะเป็นโบสถ์วิหารต่างๆ ที่ตั้งอยู่รายรอบนั่นเอง ส่วนชื่อของจัตุรัสแดงนั้นก็มีที่มาจากอาคารต่างๆ ที่ต่างอยู่ที่นี่ส่วนใหญ่จะเป็นสีแดง นอกจากนั้นจัตุรัสแดงยังเป็นสถานที่สำหรับจัดงานเฉลิมฉลองต่างๆ ด้วย อย่างเช่นงานเทศกาลเคาท์ดาวน์ปีใหม่ที่ใกล้เข้ามา เค้าก็จัดอยู่ที่นี่ด้วยเหมือนกัน

2. มหาวิหารเซนต์เบซิล

มหาวิหารเซนต์เบซิล เป็นสัญลักษณ์ของรัสเซียที่มีจุดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมที่ไม่เหมือนใคร อีกทั้งยังตั้งอยู่ในตำแหน่งที่โดดเด่น สามารถมองเห็นได้เด่นชัดที่สุดในจัตุรัสแดงอีกด้วย และเมื่อนักท่องเที่ยวได้มีโอกาสเดินเข้าไปด้านในโบสถ์ ก็จะได้พบกับความน่าประหลาดใจที่ซ่อนอยู่หลังกำแพง ซึ่งมีลักษณะเหมือนเขาวงกตที่ประกอบด้วยหอสวดมนต์ต่างๆ โดยสิ่งก่อสร้างที่โดดเด่นที่สุดของโบสถ์ก็คือหลังคาโดม ที่คนส่วนใหญ่จะรู้จักกันในชื่อของโดมหัวหอม ที่เต็มไปด้วยรูปแบบและสีสันที่สะดุดตา ทั้งลายทางสีแดงสลับขาว วงก้นหอยสีแดงสลับเหลือง และโดมสูงสีทองบนยอด

3. พระราชวังเครมลิน

พระราชวังเครมลิน เป็นพระราชวังที่สร้างอยู่บนเนินเขาริมฝั่งแม่น้ำมอสควา ทั้งนี้พระราชเครมลินในอดีตนั้นเคยเป็นที่ประทับของพระเจ้าซาร์กษัตริย์แห่งราชวงศ์รัสเซียมาก่อน ก่อนจะเปลี่ยนเป็นที่ทำการรัฐบาลในช่วงปฏิวัติเป็นระบอบคอมมิวนิสต์ใหม่ๆ ส่วนตอนนี้ก็ได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของมอสโคไปแล้ว ซึ่งภายในพระราชวังเครมลินนั้นประกอบไปด้วยปราสาท โบสถ์ วิหาร พิพิธภัณฑ์ คลังแสง อาวุธยุทธภัณฑ์ หอคอย ป้อมปราการ หอสูง ยอดแหลม และโดมมากมาย โดยมีกำแพงสูงล้อมรอบด้วยความยาวเกือบ 3 กิโลเมตร ที่สำคัญบนหอคอยในพระราชวังยังเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในมอสโคอีกด้วย

4. วิหารอัสสัมชัญ

วิหารอัสสัมชัญตั้งอยู่ภายพระราชวังเครมลิน อีกทั้งยังเป็นวิหารที่เก่าแก่ที่สุด ใหญ่ที่สุด และสำคัญที่สุดในเครมลินอีกด้วย โดยสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยพระเจ้าซาร์อิวานที่ 3 ด้วยการออกแบบและควบคุมการก่อสร้างโดยสถาปนิกที่มีชื่อเสียงจากอิตาลี่ชื่อ อริสโตเติล ฟิโอราวานติ และเมื่อก้าวเข้าไปภายในวิหาร ผนังทาด้านทิศตะวันตกจะมีภาพเขียนติดอยู่เป็นรูปของพระสาวกและพระสังฆราชในสมัยต่างๆ ส่วนผนังด้านเหนือ ใต้ และตะวันตกนั้นเรียงรายไปด้วยหีบศพของพระสังฆราช ประมุขของศริสต์ศาสนานิกายรัสเซียนออร์โธดอกซ์ และอีกด้านที่สำคัญที่สุดก็คือผนังทางทิศตะวันออก จะเป็นภาพพระเยซูที่ถูกเขียนลงบนโลหะ ซึ่งเป็นรูปเคารพที่เขียนขึ้นจากจินตนาการที่พระผู้เป็นเจ้าดลใจให้เขียนขึ้นมานั่นเอง

5. พิพิธภัณฑ์อาร์เมอร์รี่แชมเบอร์

พิพิธภัณฑ์อาร์เมอร์รี่แชมเบอร์ เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ตั้งอยู่ภายในพระราชวังเครมลิน ซึ่งมีความสำคัญคือเป็นสถานที่เก็บสมบัติล้ำค่าของรัสเซียกว่า 4,000 ชิ้น โดยส่วนใหญ่ประกอบไปด้วยศาสตราวุธต่างๆ เครื่องป้องกันตัว หมวก เสื้อเกราะที่ใช้รบในสมรภูมิ เครื่อง เงิน ทอง เพชรพลอยเครื่องทรงของกษัติย์พระเจ้าซาร์และซารีน่า ซึ่งหาดูได้ยากยิ่ง โดยแบ่งออกเป็นชั้นต่างๆ ดังนี้ ชั้นหนึ่ง ห้องที่ 1 – 15 จัดแสดงเครื่องเงิน เครื่องทอง อาวุธ เสื้อเกราะ หมวก ดาบ ปืน หอก งาช้าง เครื่องกระเบื้อง ของขวัญจากทูตต่างๆ ส่วนชั้นใต้ดิน ห้องที่ 6 – 9 จัดแสดงเครื่องทรงของพระเจ้าซาร์ พระราชินีซาร์รีน่า เครื่องกกุฏราชภัณฑ์ ราชบัลลังค์ ราชรถและลากเลื่อนน้ำแข็ง

6. สวนอเล็กซานเดอร์

สวนอเล็กซานเดอร์ตั้งอยู่ใจกลางกรุงมอสโก ที่นี่ถือเป็นมุมสงบที่เหมาะสำหรับการมาผ่อนคลายความเครียดได้เป็นอย่างดี ซึ่งจุดเด่นของสวนแห่งนี้ก็คือ สนามหญ้าเขียวขจี มีรูปปั้นประติมากรรมและน้ำพุที่สวยงามวางเป็นจุดๆ ทั่วทั้งสวน ทั้งนี้สวนอเล็กซานเดอร์เปิดมาตั้งแต่ปี 1821 โดยเป็นสวนที่สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองชัยชนะของรัสเซียเหนือกองทัพนโปเลียน ในปี 1812 นอกจากนี้ความพิเศษของสวนอีกอย่าง ก็คือ การตกแต่งด้วยเศษซากที่เหลือจากอาคารซึ่งถูกกองทัพนโปเลียนทำลายนั่นเอง

7. โคโลเมนสโกเย

โคโลเมนสโกเย คือพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์และเขตอนุรักษ์ที่ตั้งอยู่บนที่ราบสูงซึ่งสามารถมองเห็นแม่น้ำ Moskva ได้อย่างชัดเจน โดยที่นี่ครั้งหนึ่งเคยเป็นที่พักตากอากาศในชนบทสำหรับเหล่าราชวงศ์มาก่อน  แต่ปัจจุบันนี้ที่นี่ได้กลายเป็นสวนสาธารณะยอดนิยมของนักท่องเที่ยวไปแล้ว ด้วยเป็นที่ตั้งของสถานที่สำคัญทางวัฒนธรรมหลายแห่ง นับตั้งแต่โบสถ์ Church of Ascension ที่ได้รับกาขึ้นทะเบียนมรดกโลกไปเรียบร้อย รวมไปถึงพิพิธภัณฑ์สถาปัตยกรรมไม้อันทรงคุณค่า ท่ามกลางบรรยากาศกลางแจ้งบนหญ้าอันเขียวขจี

8. มหาวิหารเซ็นต์ เดอ ซาร์เวีย

หากเทียบกับแลนด์มาร์กอื่นๆ ของมอสโค มหาวิหารเซ็นต์ เดอ ซาร์เวีย ถือว่ายังอายุน้อยมากๆ เพราะเพิ่งสร้างเสร็จเมื่อปี 2000 นี่เอง ซึ่งสร้างแทนของเก่าที่ถูกโซเวียตระเบิดทำลายทิ้งในช่วงปี 1931 โดยมีจุดเด่นคือโดมยักษ์สีทองที่วางอยู่บนยอดอาคารสีขาวสะอาดตา ส่วนภายในอาคารก็สวยงามและทรงคุณค่าไม่แพ้กันค่ะ โดยข้างในได้เก็บวัตถุที่ยังคงหลงเหลือในโบสถ์เดิมเอาไว้ แต่ก็มีเหลือแค่ไม่กี่ชิ้นเท่านั้น ซึ่งก็ได้ภาพ Christ not Painted by Hand ของศิลปินชาวรัสเซีย นอกจากนั้นที่นี่ยังมีจุดชมวิวที่สวยงามของกรุงมอสโก ที่สามารถมองเห็นได้จากระเบียงชมวิวที่มีความสูงถึง 40 เมตร

9. พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์

พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์แห่งนี้จัดแสดงคอลเลกชั่นสิ่งของจำนวนมากตลอดช่วงประวัติศาสตร์ของรัสเซีย โดยของทั้งหมดจะจัดเรียงตามระยะเวลา โดยมีข้าวของจัดแสดงมากมาย ตั้งแต่ของใช้ในบ้านเรือนไปจนถึงอาวุธและงานศิลปะ เป็นต้น ทั้งนี้สำหรับผู้ที่มาเยือนพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์แห่งนี้ หากสังเกตดีๆ จะพบว่าความโดดเด่นของพิพิธภัณฑ์ไม่ได้มีเพียงแค่สิ่งของที่อยู่ภายในเท่านั้น แต่ตัวอาคารก็สวยงามโดดเด่นไม่แพ้ใคร ด้วยการออกแบบในสไตล์กอธิก ที่สังเกตเห็นได้อย่างชัดเจนไม่ว่าจะเป็นสูงสีเข้ม 2 แห่งที่ตั้งตระหง่านบนแต่ละด้านของอาคารสีแดงเข้มที่โดดเด่นอยู่ในจัตุรัสแดง

10. สวนกอร์กี้

สวนกอร์กี้ หรือ Gorky Central Park of Culture and Leisure คือสถานที่ที่เหมาะสำหรับการใช้เวลาในช่วงวันหยุดไปกับกิจกรรมกลางแจ้ง ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมในช่วงหน้าหนาวอย่างการเล่นสเก็ตบนบ่อที่เย็นจนเป็นน้ำแข็ง ส่วนในช่วงหน้าร้อน นักท่องเที่ยวก็มักจะพกอาหารไปนั่งปิกนิกบนสนามหญ้าเขียวขจี ทั้งนี้สวนกอร์กี้เปิดทำการริมฝั่งแม่น้ำ Moskva เป็นครั้งแรกในปี 1928 และกลายเป็นต้นแบบสำหรับสวนสนุกสไตล์โซเวียต นอกจากนี้ภายในสวนยังมีสะพานและอาคารเก่าแก่สวยงาม รวมถึงบ้านที่ออกแบบโดยสถาปนิกชื่อดังชาวรัสเซีย ทำให้ที่นี่กลายเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังแห่งมอสโคที่น่าสนใจไม่แพ้ที่ไหนๆ